พรีเมียร์ลีกในปีนี้แม้จะเพิ่งเปิดฤดูกาล แต่ก็สนุกเข้มข้น พลิกไป พลิกมาแบบหาพระคุณที่สุดไมได้ สเปอร์ส ถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6-1 , ลิเวอร์พูลแพ้ แอสตัน วิลล่า 7-2 หรือการบุกถล่มไอ้ปืนใหญ่ 0-3 ของแอสตัน วิลล่า
รวดเร็ว เด็ดขาด ดั่งสายฟ้าฟาด
จริง ๆ ความสนุกของพรีเมียร์ลีกในปีนี้มันเริ่มตั้งแต่ตลาดนักเตะเปิดทำการแล้ว ข่าวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เจดอน ซานโช่ การทำแสบแอบซื้อ ปาเตย์ จากแอต.มาดริด ของอาร์เซน่อล การซื้อตัวดี ๆ แจ่ม ๆ อย่างรวดเร็วและหลากหลายของเชลซี และดีลที่แทบจะปิดกันในวันเดียวของลิเวอร์พูล กับ ดีเอโก้ โจต้า
สำหรับโจต้ากับลิเวอร์พูลนั้นเรียกว่า มีข่าวเช้า ตอนเย็นซื้อ ตอนกลางคืนชูเสื้อ!
รวดเร็ว เด็ดขาด ปาดสายฟ้า เหมือนรุกของพวกเขาเลยทีเดียว
แต่การเข้ามาของโจต้านั้นเองก็ถูกตั้งคำถามจากแฟนบอลว่า แล้วจะลงตรงไหน สมัยอยู่วูล์ฟ เขาคือตัวริมเส้นที่ทำประตูได้เก่งกาจ แต่ที่แอนฟิลด์มีทั้ง โมซาล่าห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ที่เป็นตัวหลักและแข่งกันทำประตูอยู่แล้วในทุกฤดูกาล
จะไปคิดถึงตำแหน่งกองหน้า False 9 ก็มี ฟิร์มิโน่ จับจองอยู่ แถมตัวโจต้าเองก็ไม่ได้เก่งกาจในตำแหน่งนี้ขนาดนั้น
แต่เจ้ากรรม ทุกเกมที่โจต้าลงเป็นตัวสำรองเขามีอะไรดี ๆ เสมอ จนถึงตอนนี้ 6 เกมตัวจริง 1 ยิงไป 3 ลูกในพรีเมียร์ลีก และการเป็นนักเตะคนที่ 5 ของลิเวอร์พูลในการซัดแฮตทริกได้บนเวทียูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์
และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อ เขากำลังจะค่อย ๆ ยึดตำแหน่งตัวจริงในตำแหน่งกองหน้าของทีม เพราะ โรแบร์โต้ ฟิร์โน่ นั้นฟอร์มหล่นไปอย่างน่าใจหาย เพิ่งจะทำได้แค่ 1 ประตู และการเชื่อมเกมที่เป็นจุดเด่นของเขา ก็ดูจะติด ๆ ขัด ๆ เสียหมด
จอมทำลายกัปดักล้ำหน้า
อย่างแรกเลยคือการที่เขาเล่นได้ทุกตำแหน่งในแผงกองหน้า สองเขายิงประตูได้เด็ดขาด และสามเขาคือจอมทำลายกับดับล้ำหน้า ที่เห็น ๆ คือลูกที่ยิงเวสแฮมต์ 3-1 โจต้ายืนรอจังหวะอย่างใจเย็น จนกระทั่ง เซอร์ดราน ชากิรี่ได้บอล ดีโอโก้ โจต้า รีบสิ่งสวนไลน์ขึ้นไป พอดีกับจังหวะที่ชากิรี่ จ่ายทะลุไปให้เขาสังหารอย่างเลือดเย็น
หรือ 3 ประตูในเกมกับอตาลันต้า แฮตทริกแรกของเจ้าตัวกับทีม ก็เป็นการชิงจังหวะกับไลน์กองหลังสร้างความได้เปรียบ และความเยือกเย็นในการจบสกอร์ทั้งนั้น
นอกจากนี้สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดในหลาย ๆ เกมคือ เกมไหนที่เขาลงมาเป็นตัวสำรอง รูปเกมของหงส์แดงที่ดูอึดอัด ๆ จะคลี่คลาย และมีช่องทางใหม่ ๆ ในการเข้าทำเสมอ
ฟันเฟืองตัวใหม่กับการป้องกันแชมป์ ?
ถ้าให้พูดกันตรง ๆ ดีเอโก้ โจต้า เริ่มเข้าไปอยู่ในใจของแฟนลิเวอร์พูลแล้ว จากลีลาการเล่น สไตลืที่ดูแล้วเข้ากันได้ดีกับแนวรุกหลักของทีม ถึงขนาดที่เชียร์ให้ดรอปฟิร์มิโน่ ที่ฟอร์มตกแล้วส่งโจต้า ลงตัวจริงกันเลยทีเดียว
สำหรับหงส์แดงนั้น เป้าหมายในปีนี้แน่นอนว่า พวกเขายังคงได้แชมป์พรีเมียร์ลีก รวมถึงการกลับไปคว้ายูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ รวมถึงเอฟเอ คัพ ให้ได้อีกครั้ง ด้วยความเป็นทีมใหญ่ การที่พวกเจอร์เก้น คล็อปป์ ดึงดีเอโก้ โจต้า เขามานั่นหมายความว่า เขามองแล้วว่า นี่คือฟันเฟื่อง ชิ้นสำคัญที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อน “เกเก้นเพรส” ของเขาให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งความเร็ว ความขยัน การเล่นที่ไม่เห็นแก่ตัว และความเด็ดขาดของ ดีเอโก้ โจต้า มันทำให้เขาปรับตัวเข้ากับระบบของทีมได้รวดเร็วดีเหลือเกิน
และการที่โจต้าเข้ามานั้น ยังเป็นการกระตุ้นบรรดาแนวรุกทั้งหลายว่าอย่าหยุดยิง! เหมือนที่ฟิร์มิโน่ กำลังประสบอยู่ตอนนี้ เมื่อเขาฟอร์มตก ดีเอโก้ โจต้า ก็พร้อมที่จะเสียบตำแหน่งนั้นทันที ด้วยความที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง และหลากหลายบทบาท รวมถึงยังช่วยให้ เจอร์เก้น คล็อปป์วางแทคติกได้อย่างยืดหยุ่นมากยิงขึ้น
แทคติกที่หลากหลายของชายชื่อ เจอร์เก้น
เจอร์เก้น คล็อปป์อาจไม่ใช่กุนซือที่มีแทคติกมากมากในการเล่น รูปแบบหลักของเขายังคงเป็น 4-3-3 ที่กองกลางส่วนใหญ่เป็นเชิงรับ เน้นการเข้ากดดันอย่างหนักหน่วงใส่คู่แข่ง และทำลายด้วยความรวดเร็วและเด็ดขาดของแนวรุก แต่ในบางครั้งก็ต้องยอมรับว่า ความรวดเร็วของพวกเขามันใช้ไม่ได้ผล
และการเข้ามาของ ดีเอโก้ โจต้า นี้เองที่ทำให้พวกเขามีทางเหลือหลากหลายในแทคติกมากขึ้น เช่นเกมล่าสุดที่พวกเขาบุกเสมอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คล็อปป์วางแนวรุกเป้น โม ซาล่าห์ ที่ลงเป็นกองหน้าตัวเป้า และโรแบร์โต้ ฟิร์นิโน่ ถอยลงมาเป็นกองกลางตัวรุก ส่วน ดีเอโก้ โจต้า ขยับไปแทนที่ของ โม ซาล่าห์ เรียกว่า มีความแปลกใหม่ในแนวรุก ในรุปแบบการเข้าทำ แม้จะเจาะเกมรับของ เรือใบสีฟ้า ได้แค่ลูกเดียว แต่ถ้าระบบนี้ได้ใช้บ่อย ๆ และลงตัวเมื่อไหร่ ทุกทีมในพรีเมียร์ลีก อดสั่นขวัญแขวนแน่ ๆ
