หลังจากมีข่าวฮือฮาล่าสุด! มาดามแป้ง ออกมายกมือขอโทษแฟนท่าเรือ… หลังเกิดเหตุไฟดับระหว่างศึกไทยลีก นัดที่ 5 ระหว่าง “การท่าเรือ” พบ “โปลิศ เทโร” ในนาทีที่ 88 เธอถึงกับหลั่งน้ำตา ที่อาจทำให้ทีมถูกปรับแพ้ได้ แต่เธอก็ยังยืนหยัด และออกมากล่าวชี้แจงอย่างเข้มแข็ง!
ตั้งแต่มาดามแป้ง เข้ามาบริหารทัพสิงห์เจ้าท่า เธอได้เข้ามามีบทบาทในการลงทุน และพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของทีม มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบไฟฟ้า เธอได้ร่วมมือกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย ทั้งปรับปรุงไฟสนาม ติดเครื่องปั่นไฟ และทดสอบกับเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นข้อผิดพลาดครั้งแรก! ในรอบ 6 ปี ที่เธอบริหารทีมมา…
สาเหตุที่แท้จริง ข่าวไฟดับมาดามแป้ง
แม้การไฟฟ้านครหลวง จะออกมาแจ้งแล้วว่า สาเหตุไฟดับ เกิดจากการขัดข้องของอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าของสนามกีฬา แต่ก็ยังมีเรื่องแปลกเกิดขึ้น นั่นคือกล้องวงจรปิดบริเวณเครื่องปั่นไฟ ถูกบิดหักมุมกล้อง ทำให้ไม่สามารถบันทึกภาพได้
ผมเลยลองคิดดูว่า แล้วใครจะได้ประโยชน์? และใครเสียประโยชน์ล่ะ? ถ้าให้วิเคราะห์ถึงปมปัญหา ที่ “นางฟ้าท่าเรือ” กำลังเผชิญ สาเหตุของไฟดับ อาจเกิดจากความขัดแย้ง ประเด็นที่เธอเห็นต่าง และมีปากเสียงกับ “พล.ต.อ.สมยศ” นายกสมาคม หรือเปล่า…
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็อนุมานได้ว่า อาจเกิดการจัดฉากขึ้นก็เป็นได้ และถ้าหากทำอย่างนั้นจริง จะต้องเป็นการร่วมมือกัน ของผู้มีอิทธิพลในวงการฟุตบอล และย่อมสร้างความหวั่นวิตกให้กับ “วงการฟุตบอลไทยลีก” อย่างแน่นอน… ว่าถ้าเป็นไปได้ อาจทำให้ย้อนกลับไปสู่ยุคมืด ที่วงการลูกหลังไทยถูกครอบงำโดย “มาเฟีย” …
ถึงอย่างไร ความจริงยังไม่ได้ถูกขุดคุ้ย แต่ที่แน่ ๆ ก็คือ ทักษะการแก้ไขสถานการณ์ ของนางฟ้าผู้จัดการคนนี้ ถือว่าตั้งรับได้ดี แม้จะมีเสียน้ำตา แต่เธอก็ยังคุมความแตกตื่นของแฟน ๆ ได้เอาอยู่ สาเหตุที่แท้จะเป็นยังไงค่อยว่ากัน ตอนนี้เรามาดูกันว่า มาดามแป้งคนนี้ เธอเป็นใครมาจากไหน…
มาดามแป้งเป็นใคร?
สำหรับคนที่ไม่รู้จักเธอ ผมไม่แน่ใจว่าคุณเป็นคนวงการไหน… ผู้หญิงที่ชื่อ “นวลพรรณ ล่ำซำ” หรือ “มาดามแป้ง” คนนี้ เธอเป็นหญิงแกร่งแห่งวงการฟุตบอลไทย! ปัจจุบันเธอเป็นประธานสโมสรฟุตบอล “การท่าเรือ” ในไทยลีก และเคยเป็นอดีตผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยด้วย!
คุณ “แป้ง” เกิดวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2509 เป็นลูกสาวของ “โพธิพงษ์ ล่ำซำ” กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กับ “ยุพา ล่ำซำ” เจ้าของธุรกิจเมืองไทยประกันชีวิต เธอเป็นพี่สาวคนโต มีพี่น้องรวม 3 คน น้องชาย 1 คน และ น้องสาวอีก 1 คน ซึ่งเธอได้เติบโต และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้อง ๆ อย่างมาก…
ก่อนที่จะเข้าวงการกีฬา
มาดามแป้งเป็นคนเรียนเก่งมาก! เธอจบการศึกษาจาก “โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน” จบปริญญาตรี “สาขาบริหารธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” และ ปริญญาโท “สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยบอสตัน” จากสหรัฐอเมริกา
ก่อนเข้าวงการกีฬา เธอเคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยนะ! เธอเคยเป็นอดีตที่ปรึกษาประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ, อดีตผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ อดีตที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สุดยอดมาก!
ด้านการบริหารธุรส่วนตัว เธอก็เอาอยู่เช่นกัน! เธอเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท วรรณมานี จำกัด (นำเข้าสินค้าแบรนด์ Emporio Armani, JP Tod’s ฯลฯ) และยังเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซังออนอเร่ (กรุงเทพ) จำกัด นำเข้าสินค้าแบรนด์ Hermes อีกด้วย
เข้าวงการกีฬาเมื่อไหร่?
- พ.ศ. 2549 เธอเป็นผู้จัดการผู้หญิงคนแรก! ของประเทศไทย ที่นำทีมนักกีฬาคนพิการ แข่งขันกีฬาเฟสปิกเกมส์ ครั้งที่ 9 ที่ประเทศมาเลเซีย
- พ.ศ. 2552 มาดามแป้งเริ่มเข้าเป็นผู้จัดการทีม “ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย” ในการแข่งขันในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว
- พ.ศ. 2558 เธอเข้ามาเป็นนางฟ้าท่าเรือ ด้วยการเป็นประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟ.ซี. ดูแลกำกับทีมและช่วยเหลือโค้ช จนถึงปัจจุบัน
เธอมาคุมท่าเรือได้อย่างไร?
คุณแป้งเล่าให้สื่อฟังว่า ก่อนที่เธอจะเข้ามาคุมท่าเรือ ปี 2558 ทีมบริหารชุดเก่า ได้ติดต่อเธอมา ให้รับช่วงต่อ เนื่องด้วยปัญหาทางการเงิน ตอนนั้นเองมี 2-3 ทีมที่ติดต่อเธอมา แต่สุดท้ายเธอเลือกที่จะรับช่วงคุมทัพสิงห์เจ้าท่า!
มาดามแป้งเลือกเข้ามาคุมทีมท่าเรือ ด้วย 2 ปัจจัย คือ “ท่าเรือ” เป็นตำนานของไทย ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2510 เก่าแก่ที่สุดในเวทีไทยลีก และอีกปัจจัยก็คือ เธออยากพิสูจน์ว่าผู้หญิงก็ทำได้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอถูกสบประมาทอยู่เสมอ
อุปสรรคช่วงแรก ในการคุมท่าเรือ
หลังจากที่คุณแป้ง เข้ามาคุมทีม ปี 2558 ได้ลองเปลี่ยนชื่อใหม่! เป็น “สโมสรฟุตบอลการท่าเรือ เมืองไทยประกันภัย” และเปลี่ยน ตราสัญลักษณ์และฉายาใหม่เป็น “อาชาท่าเรือ” แต่ทำให้เกิดปัญหาขึ้น จึงต้องกลับมาใช้ชื่อเดิม
ถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อกลับแล้ว แต่ในฤดูกาลนั้น ผลงานก็ยังตกลงไปอยู่ที่อันดับ 17 ในตาราง โดยแข่ง 34 ชนะแค่ 10 เสมอ 3 และแพ้ถึง 21 ทำให้ตกชั้นไป…
แต่อย่างไรก็ตาม ในปีถัดไป 2559 มาดามแป้งก็สามารถ ดันทีมไปเล่นดิวิชั่น 1 และกลับมาลงศึกไทยลีกได้อีกครั้ง โดยจบด้วยอันดับ 3! และทีมจึงกลับมาเฉิดฉายในชื่อ “สิงห์ท่าเรือ” อีกครั้ง!
ความสำเร็จในการคุมท่าเรือ
ในปี 2560 และ 2561 ทีมมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อย ๆ! โดยในฤดูกาล 2560 แข่ง 34 ชนะ 14 เสมอ 8 แพ้ 12! และฤดูกาล 2561 แข่ง 34 ชนะ 19 เสมอ 4 แพ้ 11!
ความสำเร็จก้าวกระโดด เมื่อปี 2562 ทีมได้แชมป์ “ไทยเอฟเอคัพ”! โดยรอบชิง ชนะทีม “ราชบุรี มิตรผล เอฟซี” ทำให้ทีมการท่าเรือ เป็นที่น่าจับตาอีกครั้งในวงการลูกหนังไทย!
เธอสร้างผลที่ดีอะไร ให้ท่าเรือบ้าง?
มาดามแป้งเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับสิงห์การท่ามาก เธอไม่ใช่แค่ผู้ถือหุ้น อย่างที่ทุกคนคิดกันอย่างเดียว เธอวิ่งวุ่นช่วยเหลือทีมในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่การดีลกับปัญหานักเตะ ปัญหาโค้ช และปัญหาทุกอย่างที่เกิดในสนามและในทีม
วิเคราะห์จากการทำงานของเธอ เธอเป็นคนที่ห่วงใย และใส่ใจรายละเอียดของทุกฝ่าย เธอจะไม่สรุปเอง จะสอบถามความคิดเห็นและนำไปสู่ข้อสรุป เช่น ตอนที่มีประเด็นปัญหาเรื่องเปลี่ยนโค้ช “โชคทวี พรหมรัตน์” เธอเองก็ชี้แจงได้อย่างรอบคอบ
ยิ่งกว่านั้น จากเหตุการณ์ไฟดับ จะเห็นว่าเธอมีภาวะความเป็นผู้นำ และแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ทำให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ ด้วยประสบการณ์คุมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยกว่า 12 ปี เธอคือคนที่เหมาะมาก ที่จะคุมหางเสือของสิงห์ท่าเรือ ให้ไปคว้าชัยชนะ!
สรุปส่งท้าย
มาดามแป้ง เป็นประธานสโมสรฟุตบอล “การท่าเรือ” มานานถึง 6 ปี อดีตเธอเคยเป็นผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย และเคยเป็นผู้จัดการหญิงคนแรกของประเทศไทย! ที่นำทีมนักกีฬาคนพิการไปแข่งต่างประเทศด้วย!
เธอเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูง รักกีฬาฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ เธอมายืนอยู่ในตำแหน่งนี้เพื่อช่วยเหลือทีม และเป็นแขนขาในการต่อสู้กับปัญหาทุกอย่าง ถ้าใครได้เห็นผลงานเธอจะรู้ว่า เธอคือ “หญิงเก่งแห่งวงการฟุตบอลไทย”!
