ก่อน “แดงจะเดือด” ศึกชิงบัลลังค์จ่าฝูงบอลอังกฤษที่เดือดกว่าครั้งไหน

วันนี้แล้วสินะที่หลายคนรอคอยกับแมตช์หยุดโลกอย่าง “ศึกแดงเดือด” หรือ “Red War” ในภาษาฝรั่ง เกมนี้เรียกว่ามีความสำคัญในระดับมหาศาล ต่อพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเดิมพันมันสูง และสามารถสั่นสะเทือนบัลลังค์แชมป์ได้เลยจริง ๆ 

ชนะก็นำ ถ้าแพ้ก็ร่วง

อย่างที่ทราบกันว่า “ปีศาจแดง” นั้นเพิ่งจะเอาชนะเบิร์นลีย์ในเกมนัดตกค้างของตัวเองและทะยานขึ้นไปสู่ตัวเองจ่าฝูง (แต่เพียงผู้เดียว) ได้สำเร็จ โดยมีคะแนนนำ “หงส์แดง” อยู่เพียง 3 คะแนนเท่านั้น เกมวันนี้ จะเล่นกันที่แอนฟิลด์บ้านของลิเวอร์พูล และหากลิเวอร์พูลสามารถที่จะเก็บแมนฯ ยูไนเต็ดได้ พวกเขาจะแซงกลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง ด้วยคะแนนที่เท่ากัน แต่ประตูได้เสียที่ดีกว่า

แต่! หากพวกเขาแพ้ล่ะ หากลิเวอร์พูลไม่ได้ 3 คะแนนในเกมนี้พวกอาจจะถูกทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เอฟเวอร์ตัน แซงขึ้นไป โดยที่พวกเขาจะตกไปอยู่ที่ 6 ของตารางทันทีหากว่า 2 ทีมสีบลู (ฟ้า กับ น้ำเงิน) ชนะในเกมของตัวเองได้ 

เรียกว่า เกมวันนี้หากปีศาจแดงชนะ เรียกว่าได้ทั้งขึ้นทั้งร่อง คือคะแนนทิ้งจากอันดับ 2 ได้ถีบทีมคู่อริให้อันดับรูดแบบมหาราชลงไป แถมได้แซว ได้แขวะ ได้สะใจล้วน ๆ ในเกมนี้ แต่ถ้าหากแพ้ พวกเขาก็จะยังคงอยู่อันดับ 2 ของตาราง เรียกว่า เกมนี้ลิเวอร์พูลแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!

ซาล่าห์คงจะจ๋อยอีกครั้งหากพวกเขาพ่ายแพ้ในเกมนี้

ทำไม ผี-หงส์ ถึงเกลียดกัน

จริง ๆ แล้ว เรื่องนี้มันเริ่มมาจากพื้นเพของทั้ง 2 เมืองในอดีต ที่ลิเวอร์พูลเป็นเมืองท่าอันดับ 1 ของโลก ส่วนแมนเชสเตอร์คือเมืองที่รุ่งเรืองสุด ๆ ในการผลิตผ้าฝ้าย ประชากรกว่า 1 ใน 4 ของโลกใส่เสื้อผ้า Made in Manchester 

แต่แม้แมนเชสเตอร์จะผลิตเสื้อผ้าได้มากแค่ไหน แต่ก็ต้องนำส่งผ่านทางเรือ แต่ด้วยความที่แมนเชสเตรอ์ไม่ได้อยู่ติดทะเล จึงจำเป็นต้องพึ่งท่าเรือลิเวอร์พูล ซึ่งเมืองลิเวอร์พุลเก็บภาษีแบบโคตรรแพง เมืองลิเวอร์พุลก็เก็บเงินอย่างเดียวชิล ๆ ทำให้แมนเชสเตอร์รู้สึกว่าตัวเองเหมือนถูกขูดรีดอยู่ตลอดเวลา

จนวันหนึ่งเมืองแมนเชสเตอร์ ทนไม่ไหวเลยอยากจะสร้างท่าเรือของตัวเองบ้าง และได้มีมติขุดคลองแมนเชสเตอร์ขึ้นมา ทะลุจากทะเลยาวมาถึงตัวเมืองแมนเชสเตอร์ โดยใช้เวลาในการขุด 7 ปี ระยะทาง 58 กิโลเมตร เมื่อคลองนี้ถูกขุดเสร็จ ท่าเรือแมนเชสเตอร์ถูกเปิดใช้ เรือจากทั่วโลกเลยไม่จำเป็นต้องผ่านเมืองลิเวอร์พูลอีก สามารถตรงไปที่แมนเชสเตอร์ได้เลย จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความเสื่อมถอยของเมืองลิเวอร์พูลในเวลาต่อมา และจากจุดนี้เองทำให้แมนเชสเตอร์ได้โอกาสเย้ยหยันลิเวอร์พูล ด้วยความคับแค้นที่ถูกกดขี่มาตลอดก่อนหน้านี้ และนี่คือจุดเริ่มต้นแห่งความเกลียดชังของทั้งสองเมือง ก่อนจะลุกลามมาถึงฟุตบอล

ปะทะเดือดมาตั้งแต่อดีต

แก่งแย่งชิงดี

แต่หากมองถึงในเรื่องของเหตุผลฟุตบอลล้วน ๆ ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นแย่งกันเป็นที่ 1 มาโดยตลอด ในลีกสูงสุด ลิเวอร์พูลคืออดีตแชมป์ที่มากที่สุด และหยิ่งผยองด้วยความคิดที่ว่าพวกยูไนเต็ดยังห่างไกลจากพวกเขา จนการมาถึงของอเล็ก เฟอร์กูสัน ที่เข้ามาสร้างปีศาจแดง ให้ยิ่งใหญ่ และกว่าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบรัว ๆ จนในที่ปี 2013 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต้ด ก็คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 20 มาครอง และก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษมากที่สุดเหนือลิเวอร์พูลทันที 

ส่วนในฟุตบอลยุโรปนั้น แม้ลิเวอร์พูลจะมีแชมป์ยุโรปถึง 6 สมัย แต่ปีศาจแดงเองก็สามารถขิงได้จากการเป็น ทริปเปิ้ลแชมป์ในปี 1999 แม้มันจะดูเถียงไม่ค่อยขึ้นจากจำนวน แต่เราคงต้องยอมรับว่า ในยุคที่ปีศาจแดงแข็งแกร่ง ลิเวอร์พูลแทบจะไร้ทางสู้ ส่วนในวันที่ปีศาจแดงอ่อนแอ ลิเวอร์พุลก็ไม่ได้ฉกฉวยโอกาสนั้นดีดตัวเองให้เหนือกว่าปีศาจแดงมากมายเท่าไหร่นัก จะมีก็แค่ปีที่แล้วที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์เท่านั้น ที่พวกเขาสามารถ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้

เมื่อครั้งปิศาจแดงขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของบอลอังกฤษ

แดงเดือด ณ แอนฟิลด์

  • ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ที่แอนฟิลด์ในพรีเมียร์ลีกมา 67 นัดติดต่อกัน
  • ลิเวอร์พูล ไม่แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 4 นัดติดต่อกัน และไม่แพ้แบบคู่แค้นตลอดชาติของตัวเองที่ แอนฟิลด์ 5 นัดติดต่อกันในทุกรายการ (ชนะ 3 เสมอ 2)
  • โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่เคยเอาชนะ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เลยในศึกแดงเดือดที่เจอกัน 3 ครั้ง (เสมอ 2 แพ้ 1)
  • นับตั้งแต่คุมทีมหงส์แดง เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่เคยแพ้ 2 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก
  • ลิเวอร์พูล ไม่เคยเริ่มต้นปีใหม่ด้วยการแพ้ 2 นัดติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 1993
  • พลพรรคปีศาจแดงยัดเยียดความปราชัยให้ ลิเวอร์พูล ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นใน 10 เกมล่าสุดที่เจอกันในทุกรายการ
  • เกมสุดท้ายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเหยียบจมูก ลิเวอร์พูล ที่ แอนฟิลด์ – เวย์น รูนี่ย์ เป็นผู้ซัลโวประตูชัย 

ก่อนเกมมีอะไรหน้าสนใจ

จริง ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีแขวะกันเล็กน้อยจากบอสของทั้งสองฝั่ง กลังเจอร์เก้น คล็อปป์ได้พูดถึงการได้จุดโทษของปิศาจแดงในช่วง 2 ปีหลังนี้มันมากกว่าที่เขาได้จากตลอด 5 ปี ที่คุมทีมลิเวอร์พุลมาเสียอีก

ขณะที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ออกมาตอบกลับว่า ถ้าเป็นเขาคงไม่เสียเวลามานั่งนับเลิกว่าใครได้จุดโทษกี่ครั้ง และเขาคงจะสนใจแต่ทีมของตัวเองมากกว่า

พอล เทียร์นี่ย์ เปาผู้แจกจุดโทษให้ปีศาจแดงถึง 5 ครั้งจาก 13 เกม

นอกจากนี้ยังมีการเปิดสถิติ ผู้ตัดสินเกมนี้อย่าง พอล เทียร์นี่ย์ ออกมาดังนี้

ตัดสินลิเวอร์พูล 13 นัด ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 2 ไม่เคยแจกใบแดงให้ลิเวอร์พุล แต่ก็ไม่เคยแจกจุดโทษให้ด้วยเช่นกัน โดยในปีนี้เทียร์นี่ย์ลงเป่าให้ลิเวอร์พูล 2 เกม คือเกมที่ชนะเชลซี 2-0 ณ สแตมฟอร์ด บริด และเสมอกับนิวคาสเซิ่ล 0-0

ตัดสินแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 13 นัด ชนะ 7 เสมอ 3 แพ้ 3 ไม่มีใบแดงให้แก่ผู้เล่นปีศาจแดง แต่! แต่!! และแต่!!! แจกจุดโทษให้แมนฯ ยูไนเต็ดไปถึง 5 ครั้ง ในปีนี้ลงเป่าให้ปีศาจแดงเกมเดียวคือเกมที่ชนะเอฟเวอร์ตัน 3-1 เมื่อช่วงปลายปี

และนี่ก็คือเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อย ความเป็นมา เป็นไปของศึกแดงเดือดในค่ำคืนนี้ เจอกัน 23.30 น. แล้วจะรู้ว่าใครจะ Ruay ใครจะพัง ส่วนวันนี้เดวิด พาRuay ขอลาไปก่อน ประเดี๋ยวเจอกันบทวิเคราะห์หลังเกมครับ

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on whatsapp
WhatsApp
Share on email
Email

บทความที่เกี่ยวข้อง

Darüber hinaus bieten verschiedene Apps Bonusfunktionen, die zu besseren Gewinnmöglichkeiten führen. ist nicht Das ermöglicht eine rasche und problemlose Incorporation in den Online-Glücksspielmarkt. beste online Die Seite wird multilingual betrieben und junge anderem in jeder russischen Sprache angeboten. den link Als dieses Issue bekannt wurde, wurden diese Spiele unverzüglich aus der Angebots-Palette herausgenommen. vulkan vegas