Meball ลา ลีกา
เรอัล บายาโดลิด -vs- อูเอสก้า
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
19/10/20 อูเอสก้า เสมอ เรอัล บายาโดลิด 2-2
02/02/19 อูเอสก้า ชนะ เรอัล บายาโดลิด 4-0
07/10/18 เรอัล บายาโดลิด ชนะ อูเอสก้า 1-0
17/02/18 เรอัล บายาโดลิด ชนะ อูเอสก้า 3-2
24/09/17 อูเอสก้า ชนะ เรอัล บายาโดลิด 1-0
เรอัล บายาโดลิด
เรอัล บายาโดลิด ของกุนซือ เซร์กิโอ้ กอนซาเลซ เพิ่งจะเปิดรังพ่ายให้กับ เลบานเต้ 2-4 ในศึก โกปา เดล เรย์ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับสภาพทีมล่าสุดก่อนลงสนาม จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โรเก้ เมซ่า กองกลางวัย 31 ปี ที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ มารานเญา, ฆาบี ซานเชซ, กิโก้ โอลิบาส กับ ราอูล การ์เนโร่ สี่แข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า กอนซาเลซ เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี โชน ไวส์แมน ยืนเป้าล่าสกอร์และใช้ ฟาเบียน ออเรยาน่า, โตนี่ บีย่า กับ ออสก้าร์ ปลาโน่ เป็นสามกลางรุกคอยสนับสนุนจากแนวหลัง
อูเอสก้า
อูเอสก้า ของกุนซือ ปาเชต้า เพิ่งจะเปิดรังเจ๊าจืด บียาร์เรอัล 0-0 สำหรับสภาพทีมล่าสุดก่อนฟาดแข้ง จะไม่สามารถใช้บริการ ฆาบี ออนติเบรอส แดนกลางตัวเก่งที่ติดโทษแบน เช่นเดียวกับ ซานโดร รามิเรซ และ เปโดร มอสกีร่า สองแข้งเดี้ยงค้างสต๊อคซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า ปาเชต้า เตรียมจัดทัพในแผนการเล่น 4-2-3-1 โดยมี ราฟา มีร์ ดาวยิงวัย 23 ปี ยืนเป้าเขย่าสกอร์และใช้ ดาบิด เฟร์เรโร่, บอร์ฆ่า การ์เซีย กับ เซร์กิโอ โกเมซ เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
เรอัล บายาโดลิด (4-2-3-1) : ฆอร์ดิ มาซิป – ปาโบล เอร์บิอาส, บรูโน่ กอนซาเลซ, ฆัวกิน เฟร์นานเดซ, นาโช่ มาร์ติเนซ – รูเบน อัลการาซ, มิชาล – ฟาเบียน ออเรยาน่า, โตนี่ บีย่า, ออสก้าร์ ปลาโน่ – โชน ไวส์แมน
อูเอสก้า (4-2-3-1) : อันเดรส เฟร์นานเดซ – เปโดร โรเปซ, ฆอร์เก้ ปูลิโด้, ดิมิทริออส ซิโอบาส, ฆาบี้ กาลัน – มิเกล ริโก้, ไฆเม่ เซโออาเน่ – ดาบิด เฟร์เรโร่, บอร์ฆ่า การ์เซีย, เซร์กิโอ โกเมซ – ราฟา มีร์
ทรรศนะเดวิด พาRuay
เกมนี้เจ้าบ้าน เรอัล บายาโดลิด น่าจะเปิดรังเอาชนะไปได้ไม่ยากเย็น แม้ว่าช่วงหลังอาจจะฟอร์มไม่ดีนัก แต่ 4 เกมลีกหลังสุดแสดงให้เห็นศักยภาพเกมรุกที่ไม่ธรรมดา ด้วยการซัด 5 ประตูตลอดช่วงเวลาดังกล่าว ประกอบกับสถานการณ์ในตารางก็ต้องการเก็บแต้มเพื่อหนีห่างพื้นที่สีแดง ประกอบกับการเจอ อูเอสก้า ซึ่งเป็นบ๊วยของลีก มาพร้อมกับฟอร์มแพ้ 4 จาก 5 หนท้ายในลีก (เสมอ 1) และโดนทะลวงแนวรับยับเยินร่วมๆ 6 ตุง แต่ที่แน่ๆ คือเกมรุกยิงได้เพียงลูกเดียวเท่านั้น (อีก 4 เกมหลังสุดยิงไม่ได้เลย) ฉะนั้นเมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมของทั้งคู่ แนะนำอยู่ต่อไม่ต้องรอลงอาญา ฟันธง! จัดโลด เรอัล บายาโดลิด พิชิตชัย…!
Mescore : “เรอัล บายาโดลิด ชนะ 1-0”
Meball เซเรีย อา
โตริโน่ -vs- ฟิออเรนติน่า
ผลการเจอกันของทั้งสองทีม
19/09/20 ฟิออเรนติน่า ชนะ โตริโน่ 1-0
20/07/20 ฟิออเรนติน่า ชนะ โตริโน่ 2-0
08/12/19 โตริโน่ ชนะ ฟิออเรนติน่า 2-1
31/03/19 ฟิออเรนติน่า เสมอ โตริโน่ 1-1
13/01/18 โตริโน่ แพ้ ฟิออเรนติน่า 0-2
โตริโน่
เจ้าบ้าน พลพรรค “กระทิงหิน” ผลงานย่ำแย่ 5 เกมหลังสุดยังไม่ชนะใคร ด้านความพร้อมเกมวันนี้พวกเขาจะไม่มี เมอร์กิม วอชโวด้า กับ นิโกลัส เอ็น’กูลู ที่บาดเจ็บหมดสิทธิ์งสนาม คาดว่า ดาวิเด้ นิโคล่า กุนซือใหญ่จะวางหมากในระบบ 3-5-2 แดนกลางเป็น ซาช่า ลูคิช จับคู่กับ ยาโคโป เซเกร้ คอยปั้นเกม สนับสนุน 2 หัวหอกในแดนหน้าอย่าง อันเดรีย เบล็อตติ (18 นัด/9 ประตู) กับ ซิโมเน่ ซาซ่า (10 นัด/3 ประตู) ที่เพิ่งเหมายิงคนเดียว 2 ประตูในเกมล่าสุดลงล่าตาข่ายในเกมนี้
ฟิออเรนติน่า
ด้านทีมเยือน ทัพ “ม่วงมหากาฬ” ผลงานเกมล่าสุดเพิ่งเชือด โครโตเน่ ไป 2-1 สร้างขวัญและกำลังใจให้กับพวกเขาได้เป็นอย่างมาก ด้านความพร้อมเกมวันนี้พวกเขาไม่มีตัวเจ็บหรือติดโทษแบนใดๆ คาดว่า เซซาเร่ ปรันเดลลี่ กุนซือใหญ่จะวางแผนในระบบ 3-5-2 แดนกลางวาง เกตาโน่ กาสโตรวิลลี่ กับ จาโคโม บอนนาเวนตูร่า คอยปั้นเกมร่วมกัน สนับสนัน 2 หัวหอกในแดนหน้าอย่าง ฟร้องค์ ริเบรี่ (16 นัด) และ ดูอัน วลาโฮวิช (18 นัด / 7 ประตู) ลงล่าตาข่ายในเกมนี้
โตริโน่ (3-5-2) : ซัลวาตอเร่ ซิริกู – อาร์มันโด้ อิซโซ่, ลิอานโก้, ริคาร์โด้ โรดริเกซ – วิลเฟร็ด ซิงโก้, ซาช่า ลูคิช, ยาโคโป เซเกร้, คารอล ลิเน็ตตี้, คริสเตียน อัลซัลดี้ – ซิโมเน่ ซาซ่า, อันเดรีย เบล็อตติ
ฟิออเรนติน่า (3-5-2) : บาร์ทโตเมียร์ ดราโกสกี้ – นิโคล่า มิเลนโควิช, เกร์มัน เปสเซลล่า, อิกอร์ – ลอเรนโซ่ เวนูติ, โซฟียาน อัมราบัต, เกตาโน่ กาสโตรวิลลี่, จาโคโม บอนนาเวนตูร่า, คริสเตียโน่ บิรากี้ – ฟร้องค์ ริเบรี่, ดูอัน วลาโฮวิช
ทรรศนะเดวิด พาRuay
เจ้าบ้าน โตริโน่ ฟอร์มย่ำแย่หนักไม่ชนะใครมา 5 เกมติด เกมรุกดีแต่เกมรับหละหลวม ขณะที่ทีมเยือน ฟิออเรนติน่า ผลงานย่ำแย่เช่นกันแต่เกมล่าสุดพลิกกลับมาเก็บชัยได้สำเร็จด้วยการเปิดบ้านเชือด โครโตเน่ ไป 2-1 เรทราคาเปิดออกมาให้ เสมอ ยอมรับว่าบอลออกได้หลายหน้าแบบนี้อันตรายครับ ถ้าข้ามได้แนะนำให้ข้ามไปก่อนเลยครับ แต่ในฐานะผู้เขียนผมต้องฟันธงให้จบและผมขอเลือกอยู่ฝั่งทีมเยือน ฟิออฯ ดีกว่าครับ เพราะพวกเขาเพิ่งคว้าชัยมาได้หมาดๆย่อมมีความมั่นใจ บวกกับ โตริโน่ เกมรับหละหลวมแมตช์นี้โอกาสโดนผู้มาเยือนยิงสูงครับ เกมนี้อยู่ฝั่ง “วิโอล่า” โอกาสเฮรับทรัพย์มีมากกว่าครับ
Mescore : ฟิออเรนติน่า ชนะ 1-0
Meball บุนเดสลีก้า
สตุ๊ตการ์ต -vs- ไมนซ์
ผลงานที่เคยพบกัน
26/09/20 ไมนซ์ – สตุ๊ตการ์ต 1-4
19/01/19 สตุ๊ตการ์ต – ไมนซ์ 2-3
26/08/18 ไมนซ์ – สตุ๊ตการ์ต 1-0
20/01/18 ไมนซ์ – สตุ๊ตการ์ต 3-2
20/12/17 ไมนซ์ – สตุ๊ตการ์ต 3-1
สตุ๊ตการ์ต
ต้องรอทดสอบความฟิตของบอร์น่า โซซ่า วิงแบ็กด้านซ้ายที่เจ็บในเกมกับไลป์ซิก หากลงเล่นไม่ไหว ต็องกีย์ คูลิบาลี่ จะได้ลงเล่นแทน ขณะที่แนวรับต้องลุ้นตัวจริงกันระหว่างคอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส และปาสกาล สเตนเซิล เพื่อที่จะประสานงานกับวัลเดมาร์ อันตอน และมาร์ค โอลิเวอร์ เคมพ์ ที่เหลือตัวหลักๆ มากันครบ เกมรุกนำโดยนิโคลัส กอนซาเลซ (6 ประตู 2 แอสซิสต์) และซิลาส วามานกิตูก้า (10 ประตู 3 แอสซิสต์) ที่รวมกันทำไป 16 ประตูจากทั้งหมด 33 ประตูที่สตุ๊ตการ์ตได้ซีซั่นนี้
ไมนซ์
ต้องรอทดสอบความฟิตผู้เล่นสำคัญอย่างดาเนียล โบรซินสกี้ กองหลัง และปิแอร์ คุนเด้ มาล็อง กองกลางที่มีปัญหาที่หัวเข่าทั้งคู่ ด้านโดมินิค โคห์ร ที่เพิ่งจะดึงมาจากแฟร้งค์เฟิร์ต และได้ลงเล่นทันทีในนัดล่าสุดที่พวกเขาเชือดไลป์ซิก 3-2 โดนเปลี่ยนออกในเกมดังกล่าวเนื่องจากเจ็บน่องนัดนี้ต้องรอทดสอบความฟิตเช่นกัน เกมรุกไม่มีดาวยิงอย่างฌ็อง ฟิลิปป์ มาเตต้า ที่ย้ายไปคริสตัล พาเลซแล้วในตลาดหน้าหนาว ตัวใดตัวหนึ่งระหว่างโจนาธาน เบิร์คคาร์ดท์ หรือคาริม โอนิซิโว่ จะได้ลงเล่นคู่กับโรบิน ไควสัน
สตุ๊ตการ์ต (3-4-2-1): เกรกอร์ โคเบิล; คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส, อันตอน, มาร์ค โอลิเวอร์ เคมพ์; ซิลาส, โอเรล ม็องกาล่า, วาทารุ เอ็นโดะ, โซซ่า; มาเตโอ คลิโมวิช, กอนซาโล่ คาสโตร; นิโคลัส กอนซาเลซ
ไมนซ์ (3-4-1-2): โรบิน เซนท์เนอร์; เยอร์รี่ เซนต์ยุสต์, สเตฟาน เบลล์, มุสซ่า เนียกาเต้; ดานนี่ ดา คอสต้า, เลอันโดร บาร์เรโร่, โดมินิค โคห์ร, ฟิลลิปป์ เอ็มเวเน่; ดานนี่ ลัตซ่า; คาริม โอนิซิโว่, โรบิน ไควสัน
ทรรศนะเดวิด พาRuay
ม้าขาวสตุ๊ตการ์ต (18 นัด ชนะ 5 เสมอ 7 แพ้ 6 ได้ 33 เสีย 29) ลักษณะเหมือนจะออกอาการแผ่ว ผลงาน 5 เกมหลังชนะได้แค่ครั้งเดียว
ด้าน ไมนซ์ (18 นัด ชนะ 2 เสมอ 4 แพ้ 12 ได้ 18 เสีย 38) 3 นัดหลังเจอของยากล้วนๆ แต่ก็องค์ลงได้มาถึง 4 แต้ม จากการชนะไลป์ซิก และเสมอดอร์ทมุนด์ สองทีมระดับลุ้นแชมป์
ตามฟอร์มยังคงเป็นสตุ๊ตการ์ตที่ดูดีกว่า อย่างไรก็ตาม ไมนซ์เวลานี้มีทั้งเก่งทั้งเฮง เกมล่าสุดตกเป็นฝ่ายตามตลอด แต่ก็ยังแซงชนะไลป์ซิกได้ 3-2 เป็นสัญญาณว่ามีดีอยู่พอตัว นัดนี้ไปเยือนสตุ๊ตการ์ตขาลงน่าจะมีลุ้นเสมอ
Mescore : สตุ๊ตการ์ต เสมอ 2-2
