Meball พรีเมียร์ลีก
อาร์เซน่อล -vs- เซาท์แฮมป์ตัน
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
26/06/20 เซาท์แฮมป์ตัน แพ้ อาร์เซน่อล 0-2
23/11/19 อาร์เซน่อล เสมอ เซาท์แฮมป์ตัน 2-2
24/02/19 อาร์เซน่อล ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 2-0
16/12/18 เซาท์แฮมป์ตัน ชนะ อาร์เซน่อล 3-2
08/04/18 อาร์เซน่อล ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 3-2
อาร์เซน่อล
อาร์เซน่อล ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า เพิ่งจะเปิดรังพ่ายให้กับ เบิร์นลี่ย์ 0-1 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม จะได้ตัว นิโกลัส เปเป้ พ้นโทษแบนกลับมาประจำการได้อีกครั้ง สวนทางกับ กรานิต ชาก้า และ เอ็กตอร์ เบเญริน สองแข้งหลักที่ติดโทษแบนเข้ามาล่าสุด นั่นหมายความว่า โธมัส ปาร์เตย์ เป็นเพียงรายเดียวที่เดี้ยงอยู่เดิม คาดว่า อาร์เตต้า เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี ปิแอร์ ออบาเมย็อง ยืนหน้าล่าตาข่ายและใช้ เปเป้, วิลเลี่ยน กับ บูกาโย่ ซาก้า เป็นสามประสานกลางรุกเหมือนเช่นเคย
เซาท์แฮมป์ตัน
เซาท์แฮมป์ตัน ของกุนซือ ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เพิ่งจะเปิดรังถล่มเอาชนะ เชฟฯยูฯ 3-0 เรียกขวัญกำลังใจต่อเนื่อง สำหรับความพร้อมของทีมก่อนฟาดแข้ง ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามารบกวน นั่นหมายความว่าตัวหลักอยู่กันครบ คาดว่า ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เตรียมวางหมากในแผนการเล่น 4-4-2 โดยมี เช อดัมส์ กับ แดนนี่ อิงส์ ควงคู่หน้าล่าสกอร์ในแดนหน้า และใช้ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ กับ โอริออล โรเมอู ปักหลักคุมกลางตามสูตร
อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ – ไอน์สลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส, ร็อบ โฮลดิ้ง, กาเบรียล มากัลแญส, คีแรน เทียร์นี่ย์ – โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, ดานี่ เซบาญอส – นิโกลัส เปเป้, วิลเลี่ยน, บูกาโย่ ซาก้า – ปิแอร์ ออบาเมย็อง
เซาท์แฮมป์ตัน (4-4-2) : อเล็กซ์ แม็กคาร์ธี่ – ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, แยน เบ็ดนาเร็ค, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ไรอัน เบอร์ทรานด์ – สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, โอริออล โรเมอู, ธีโอ วัลคอตต์ – เช อดัมส์, แดนนี่ อิงส์
ทรรศนะเดวิด พาRuay
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดค่อนข้างมั่นใจว่าอาคันตุกะ เซาท์แฮมป์ตัน จะบุกแชร์แต้มกลับออกมาได้เป็นอย่างน้อย เมื่อดูจากผลงานหลายนัดที่ผ่านมาจะเห็นว่าเกมรุกของพวกเขาอยู่ในเกณฑ์เฉียบสุดๆ หลังซัดไปแล้ว 22 ประตูตลอด 10 เกมท้าย แถมกำชัยรวดสองแมตช์ซ้อนมาหมาดๆ ด้วย
นี่ยังไม่นับสภาพความพร้อมของทีมที่สมบูรณ์จัดเต็มได้ทุกตำแหน่งอีก สวนทางกับเจ้าบ้าน อาร์เซน่อล ที่มีปัญหาผู้เล่นเกมรับติดโทษแบนไปสองราย ซึ่งเป็นสองคนสำคัญที่คอยปัดเป่าเกมรุกคู่แข่งมาโดยตลอด ยิ่งไปกว่านั้นสถิติในลีก 5 เกมหลังสุดก็เป็นฝ่ายปราชัยไปเน้นๆ 4 ครา (เสมอ 1) และโดนทะลวงแนวรับนับไม่ถ้วนกว่า 8 ตุง
Mescore : “เซาท์แฮมป์ตัน เสมอ 1-1 / ชนะ 1-0”
Meball พรีเมียร์ลีก
เลสเตอร์ -vs- เอฟเวอร์ตัน
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
02/07/20 เอฟเวอร์ตัน ชนะ เลสเตอร์ 2-1
19/12/19 เอฟเวอร์ตัน เสมอ เลสเตอร์ 2-2 / ลีก คัพ
02/12/19 เลสเตอร์ ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1
01/01/19 เอฟเวอร์ตัน แพ้ เลสเตอร์ 0-1
06/10/18 เลสเตอร์ แพ้ เอฟเวอร์ตัน 1-2
เลสเตอร์
เลสเตอร์ ของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ ไบรท์ตันฯ 3-0 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ยังคงไม่มีชื่อ ดาเนี่ยล อามาร์ตี้ย์ กับ ริคาร์โด้ เปไรร่า สองแนวรับที่เดี้ยงยาวอยู่เดิมทั้งคู่ คาดว่า ร็อดเจอร์ส เตรียมวางหมากในระบบ 3-4-2-1 โดยมี เจมี่ วาร์ดี้ ยืนเป้าล่าตาข่ายและใช้ เจมส์ แม็ดดิสัน กับ อาโยเซ่ เปเรซ เป็นสองกลางรุกคอยสร้างสรรค์โอกาสจากด้านหลังตามระเบียบ
เอฟเวอร์ตัน
เอฟเวอร์ตัน ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ เพิ่งจะเปิดรังเชือดนิ่ม เชลซี 1-0 ในลีกสดๆ ร้อนๆ สำหรับสภาพทีมล่าสุดก่อนฟาดแข้ง ยังคงไร้เงา ฟาเบียน เดลฟ์, ลูก้าส์ ดีญ กับ ฌ็อง-ฟิลิปป์ ชีบาแม็ง สามแข้งเดี้ยงค้างสต๊อคที่ยังไม่หายดี คาดว่า อันเชล็อตติ เตรียมจัดทัพในแผนการเล่น 4-3-3 โดยมี อเล็กซ์ อิโวบี้, โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน กับ ริชาร์ลิซอน เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ อัลลาน รับจ๊อบกลางรับคอยตัดเกมอยู่ด้านหลังตามสูตร
เลสเตอร์ (3-4-2-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, คริสเตียน ฟุ๊คส์ – มาร์ก อัลไบรจ์ตัน, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูรี่ ตีเลอม็องส์, เจมส์ จัสติน – เจมส์ แม็ดดิสัน, อาโยเซ่ เปเรซ – เจมี่ วาร์ดี้
เอฟเวอร์ตัน (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – เมสัน โฮลเกต, เยร์รี่ มิน่า, ไมเคิ่ล คีน, เบ็น ก็อดฟรี่ย์ – อับดูลาย ดูกูเร่, อัลลาน, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน – อเล็กซ์ อิโวบี้, โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน, ริชาร์ลิซอน
ทรรศนะเดวิด พาRuay
เลสเตอร์ กำลังมั่นใจอย่างสุดขีดด้วยการเก็บชัย 3 นัดซ้อนทุกรายการและผลิตสกอร์มากมายก่ายกองร่วมๆ 7 เม็ดอีกด้วย เรียกว่างานดีมีคุณภาพอีกแล้วครับท่าน อยากให้จับตามองเหล่าบรรดาตัวรุกที่เวลานี้สร้างสรรค์โอกาสกับทำเกมรุกกันได้ดุดันเต็มพิกัด ยิ่งดูยิ่งเพลิน
สอดคล้องกับ เอฟเวอร์ตัน ที่แม้จะเพิ่งเปิดรังเอาชนะ เชลซี 2-1 แต่ก็ยังไว้ใจในฟอร์มการเล่นไม่ได้เลย มีสิทธิ์ออกชนะ-เสมอ-แพ้ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ดีทริปเยือน คิง พาวเวอร์ แบบมีคนดูชมจริง น่าจะไม่ใช่งานง่ายในการบุกแชร์แต้ม ขอชี้เจ้าถิ่นที่แน่นอนกว่ามีเปอร์เซ็นต์ซิวสามคะแนนสูง ฟันธง! จัดไป “จิ้งจอกสยาม” งามหยดติ๋ง…!
Mescore : “เลสเตอร์ ชนะ 2-1”
Meball พรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล -vs- สเปอร์ส
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
12/01/20 สเปอร์ส แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1
27/10/19 ลิเวอร์พูล ชนะ สเปอร์ส 2-1
02/06/19 สเปอร์ส แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2
31/03/19 ลิเวอร์พูล ชนะ สเปอร์ส 2-1
15/09/18 สเปอร์ส แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีนักเตะเพิ่มมาอีกราย ก็คือ โจแอล มาติป ผสมโรงกับ ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, เซอร์ดาน ชากิรี่, เจมส์ มิลเนอร์, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และ โจ โกเมซ คาดว่า คล็อปป์ จะถอย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงมาปักหลักกับ ฟาบินโญ่ และส่ง ทาคูมิ มินามิโนะ เป็นตัวจริงตรงกลาง ขณะที่ 3 แนวรุกแทบไม่มีตัวเปลี่ยน จึงน่าจะเห็น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กับ ซาดิโอ มาเน่ ประสานงานต่อเนื่อง
สเปอร์ส
สเปอร์ส ของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ นาทีนี้ขาดเพียง เอริค ลามาล่า กองกลางอาร์เจนไตน์ที่เดี้ยงยาวอยู่เดิมเท่านั้น ส่วน แกเร็ธ เบล น่าจะฟิตกับมาเป้นตัวสำรองเป็นอย่างน้อย หลังจากมีอาการป่วยจนหลุดจากทีมในเกมเจ๊าพาเลซ 1-1 ทั้งนี้ มูรินโญ่ เตรียมปรับทัพหลายจุด พร้อมกับปรับมาเล่น 3 เซ็นเตอร์แบ็ค โดยมี โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, อีริก ไดเออร์ และ โจ รอนดอน ปักหลักร่วมกัน ขณะที่แนวรุกจะเล่นหน้าคู่ด้วยการวาง ซอน ฮวง มิน ล่าตาข่ายกับ แฮร์รี่ เคน
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ทาคูมิ มินามิโนะ, จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม, เคอร์ติส โจนส์ – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส – โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, อีริก ไดเออร์, โจ รอนดอน – แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, มูสซ่า ซิสโซโก้, ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก, โจวานี่ โล เซลโซ่, เบน เดวี่ส์ – ซอน ฮวง มิน, แฮร์รี่ เคน
ทรรศนะเดวิด พาRuay
ตัวเจ็บเยอะขึ้นเรื่อยๆสำหรับ ลิเวอร์พูล ยิ่งเจอโปรแกรมถี่แบบนี้ น่าจะส่งผลกระทบในเรื่องสภาพร่างกาย เพราะต้องส่งหน้าเดิมๆลงสนาม ขณะที่ สเปอร์ส มีตัวหมุนเวียนเยอะกว่า แต่ถ้าปรับทีมเยอะก็ได้ลูกสด แต่อาจขาดความต่อเนื่อง และมีปัญหาเรื่องทีมเวิร์ก อีกทั้งช่วงหลัง “ไก่เดือยทอง” ฝืดนอกบ้าน หลังจากเสมอ 3 นัดติด อย่างเกมล่าสุดก็ทำได้แค่เสมอ พาเลซ
ขณะที่ “หงส์แดง” เหมือนมีพลังแฝงเวลาเล่นในแอนฟิลด์ กับสถิติฟาดชัย 7 เกมติดบ่งบอกได้ และย้อนไกลกว่านั้นปรากฏว่าเข้าวินถึง 30 จาก 31 นัดที่ผ่านมา ดังนั้นทีมจากลอนดอนอาจจะพร้อมกว่าในแง่ขุมกำลัง ทว่าเจ้าถิ่นมีทีเด็ดในบ้าน รวมถึงทางบอลข่มอาคันตุกะจากลอนดอนเยอะมาก โดยสเปอร์ส บุกมาแพ้ถึง 4 จาก 5 ทริปหลัง ราคา 0.75 วางบอลต่อไป
Mescore : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1 หรือ 3-1
