หลังจากเงียบเหงาไปหลายวัน วันนี้กลับมาแบบตู้ม ๆ ครบทุกคู่ในวัน บ๊อกซิ่งเดย์ ของวงการฟุตบอลอังกฤษ เดวิด ก็เลยจัดให้เน้น ๆ 3 คู่บูีกันใหม่ ใครสนใจคู่ไหน ตัวไหนจิ้มมาเลย
Meball พรีเมียร์ลีก
เลสเตอร์ -vs- แมนฯยู
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
26/07/20 เลสเตอร์ แพ้ แมนฯยู 0-2
14/09/19 แมนฯยู ชนะ เลสเตอร์ 1-0
03/02/19 เลสเตอร์ แพ้ แมนฯยู 0-1
11/08/18 แมนฯยู ชนะ เลสเตอร์ 2-1
24/12/17 เลสเตอร์ เสมอ แมนฯยู 2-2
เลสเตอร์
เลสเตอร์ ของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เพิ่งจะบุกเอาชนะ สเปอร์ส 2-0 สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก ดาเนี่ยล อามาร์ตี้ย์ กับ ริคาร์โด้ เปไรร่า สองแนวรับที่เดี้ยงยาวอยู่เดิมทั้งคู่ คาดว่า ร็อดเจอร์ส เตรียมจัดทัพในระบบเก่ง 3-4-2-1 โดยมี เจมี่ วาร์ดี้ ยืนหน้าล่าตาข่ายและใช้ เจมส์ แม็ดดิสัน กับ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ผนึกกำลังเป็นสองกลางรุกคอยสร้างสรรค์เกมอยู่ด้านหลังตามระเบียบ
แมนฯยู
แมนฯยู ของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เพิ่งจะบุกเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 ในศึก ลีก คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก มาร์กอส โรโฮ ฟูลแบ็คอาร์เจนไตน์ที่เดี้ยงอยู่เพียงรายเดียวเท่านั้น คาดว่า โซลชาร์ เตรียมจัดทัพในแผนการเล่น 4-2-3-1 โดยมี อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยืนหน้าล่าสกอร์และใช้ เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลังตามสูตร
เลสเตอร์ (3-4-2-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, คริสเตียน ฟุ๊คส์ – มาร์ก อัลไบรจ์ตัน, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูรี่ ตีเลอม็องส์, เจมส์ จัสติน – เจมส์ แม็ดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ – เจมี่ วาร์ดี้
แมนฯยู (4-2-3-1) : ดาบิด เด เกอา – อั๊กเซล ตวนเซเบ้, วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – เฟร็ด, ปอล ป็อกบา – เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
ทรรศนะเดวิด พาRuay
ถ้าเป็นเรื่องการทำลายความมั่นใจคนอื่นคารัง คงต้องยกให้ แมนฯยู ซีซั่นนี้ แต่เชื่อว่าระดับ เลสเตอร์ ใน คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม โดยมีกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส วางแทคติกอยู่ คงไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นแน่นอน อย่างแย่ก็น่าจะจบเสมอได้ ประกอบกับสไตล์การเล่นของ “จิ้งจอกสยาม” เน้นโต้กลับเร็วและอาศัยความเฉียบคมของ เจมี่ วาร์ดี้ หากินได้เสมอ ก็น่าจะป่วนแนวรับ “ปีศาจแดง” ได้บ้างไม่มากก็น้อย ยิ่งไปกว่านั้นด้านเจ้าถิ่นเองก็มาพร้อมกับฟอร์มสุดแจ่มชนะ 4 จาก 5 หนท้ายทุกรายการ (แพ้ 1) และยิงไม่เลี้ยงร่วมๆ 9 ตุงเลยทีเดียว แต่ลึก ๆ เชื่อว่าผียังได้กิน
Mescore : ผีบุกเชือด 2-1
Meball พรีเมียร์ลีก
อาร์เซน่อล -vs- เชลซี
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
22/08/20 เชลซี แพ้ อาร์เซน่อล 2-2 / (กลาง) เอฟเอ คัพ
22/01/20 เชลซี เสมอ อาร์เซน่อล 2-2
29/12/19 อาร์เซน่อล แพ้ เชลซี 1-2
30/05/19 เชลซี ชนะ อาร์เซน่อล 4-1 / (กลาง) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
20/01/19 อาร์เซน่อล ชนะ เชลซี 2-0
อาร์เซน่อล
อาร์เซน่อล ของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า เพิ่งจะเปิดรังพ่ายยับให้กับ แมนฯซิตี้ 1-4 ในศึก ลีก คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ จะได้ตัว กรานิต ชาก้า กับ กาเบรียล มากัลแญส พ้นโทษแบนกลับมาประจำการเต็มรูปแบบ นั่นหมายความว่า โธมัส ปาร์เตย์ จะเป็นเพียงรายเดียวที่เดี้ยงอยู่เดิมเท่านั้น คาดว่า อาร์เตต้า เตรียมจัดทัพในระบบ 3-4-3 โดยมี นิโกลัส เปเป้, เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเตียห์ กับ วิลเลี่ยน เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์ในแดนหน้า
เชลซี
เชลซี ของกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ เวสต์แฮม 3-0 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับสภาพทีมก่อนทำศึก ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก ฮาคิม ซิเย็ค ยอดแข้งโมร็อกโกที่เดี้ยงอยู่เดิมเท่านั้น คาดว่า แลมพาร์ด เตรียมวางหมากในแผนการเล่น 4-3-3 โดยมี คริสเตียน พูลิซิช, แทมมี่ อับราฮัม กับ ติโม แวร์เนอร์ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ปักหลักคุมกลางตามระเบียบ
อาร์เซน่อล (3-4-3) : แบร์นด์ เลโน่ – ร็อบ โฮลดิ้ง, กาเบรียล มากัลแญส, คีแรน เทียร์นี่ย์ – ไอน์สลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส, โมฮาเหม็ด เอลเนนี่, ดานี่ เซบาญอส, บูกาโย่ ซาก้า – นิโกลัส เปเป้, เอ็ดเวิร์ด เอ็นเคเตียห์, วิลเลี่ยน
เชลซี (4-3-3) : เอดูอาร์ ม็องดี้ – เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า, เคิร์ต ซูม่า, ธิอาโก้ ซิลวา, เอแมร์สัน – มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เมสัน เม้าต์ – คริสเตียน พูลิซิช, แทมมี่ อับราฮัม, ติโม แวร์เนอร์
ทรรศนะเดวิด พาRuay
สำหรับ “ลอนดอน ดาร์บี้” หนนี้ยังมองว่าทีมเยือน เชลซี ดูดีกว่าเยอะ เห็นได้จากแมตช์ล่าสุดที่เปิดรังเชือด เวสต์แฮม 3-0 แถมศักยภาพของทีม ณ เวลานี้ก็เข้มกว่าเยอะ สวนทางกับ อาร์เซน่อล ที่อาการหนักหลังพ่าย 5 จาก 7 เกมท้ายในลีกแบบไม่ชนะใคร (เสมอ 2) และโดนทะลวงแนวรับยับเยินร่วมๆ 11 ตุงเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของเกมรุกก็ค่อนข้างแย่ และยังหาข้อสรุปในแดนหน้ายังไม่เจอ ทำให้กุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ต้องโรเตชั่นปรับจูนแทบทุกนัดที่ลงเล่น สิงห์บลูคงนอนมา
Mescore : เชลซีชนะขาด
Meball พรีเมียร์ลีก
แมนฯซิตี้ -vs- นิวคาสเซิ่ล
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
09/07/20 แมนฯซิตี้ ชนะ นิวคาสเซิ่ล 5-0
29/06/20 นิวคาสเซิ่ล แพ้ แมนฯซิตี้ 0-2 / เอฟเอ คัพ
30/11/19 นิวคาสเซิ่ล เสมอ แมนฯซิตี้ 2-2
30/01/19 นิวคาสเซิ่ล ชนะ แมนฯซิตี้ 2-1
02/09/18 แมนฯซิตี้ ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1
แมนฯซิตี้
แมนฯซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งจะบุกเอาชนะ อาร์เซน่อล 4-1 ในศึก ลีก คัพ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก อีริก การ์เซีย แนวรับวัย 19 ปี ที่เดี้ยงอยู่เดิมเท่านั้น คาดว่า เป๊ป เตรียมจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยมี เซร์กิโอ้ อากูเอโร่ ยืนหน้าล่าสกอร์และใช้ เฟร์ราน ตอร์เรส, เควิน เดอ บรอยน์ กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
นิวคาสเซิ่ล
นิวคาสเซิ่ล ของกุนซือ สตีฟ บรูซ เพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ เบรนท์ฟอร์ด 0-1 ในศึก ลีก คัพ ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับสภาพทีมล่าสุดก่อนลงสนาม ตอนนี้ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามากระทบแล้ว แต่กลับไร้เงา อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง, ฆาบี มานกีโญ่, ฟาเบียน ชาร์ และ จามาล ลาสเซลล์ส สี่แข้งที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 กันยกเข่ง คาดว่า บรูซ เตรียมวางหมากในระบบ 4-4-2 โดยมี โชเอลินตอน กับ คัลลั่ม วิลสัน ควงคู่ล่าสกอร์ในแดนหน้าตามสูตร
แมนฯซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบ็น ดิอาส, เชา คานเซโล่ – แฟร์นานดินโญ่, อิลคาย กุนโดกาน – เฟร์ราน ตอร์เรส, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง – เซร์กิโอ้ อากูเอโร่
นิวคาสเซิ่ล (4-4-2) : คาร์ล ดาร์โลว์ – เดอันเดร เยดลิน, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, เคียแรน คลาร์ค, จามาล ลูอิส – แม็ตต์ ริตชี่, จอนโจ้ เชลวี่ย์, ไอแซ็ก เฮย์เด้น, มิเกล อัลมิร่อน – โชเอลินตอน, คัลลั่ม วิลสัน
ทรรศนะเดวิด พาRuay
บอกเลยไม่แคล้วเสร็จเจ้าบ้าน แมนฯซิตี้ ปิดจ๊อบสามแต้มพร้อมถล่มสกอร์ตามระเบียบ เพราะพวกเขาค่อนข้างพร้อมและฟอร์มแรงมาโดยตลอด หลังเพิ่งจะบุกเอาชนะ อาร์เซน่อล 4-1 ในศึก ลีก คัพ ชุดเกือบจัดเต็มมาได้ ยิ่งเป็นการลงบู๊ใน เอติฮัด สเตเดี้ยม ยิ่งเพิ่มดีกรีความเข้มข้นเป็นหลายเท่า
สอดคล้องกับทีมเยือน นิวคาสเซิ่ล กำลังประสบปัญหาโควิด-19 เล่นงานขุมกำลังหลักหลายราย โดยเฉพาะผู้เล่นในเกมรับ แน่นอนว่าการส่งสำรองประจำการแทนเกือบทั้งหมด ย่อมทำให้ประสิทธิภาพด้อยลงกว่าที่ควรจะเป็น จริงอยู่ที่พวกเขาต้องมุ่งมั่นใจการเซฟผลการแข่งขันกลับออกไป แต่น่าจะแผนแตกกลางอากาศเสียก่อนและสกอร์ไหลไปตามทรง
Mescore : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตบพังหมด
